ผอ.ศบค.19 ทบ. แถลงข่าวการเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ

ผอ.ศบค.19 ทบ. แถลงข่าวการเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ กลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา

วันนี้ (๒๑ ก.ค. ๖๓) เวลา ๑๔๐๐ พลเอก ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.19 ทบ.) ผู้แทนกองทัพบก พร้อมด้วย พล.ท.ชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก แถลงถึงการเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ กลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ณ กองบัญชาการกองทัพบก

ตามที่กองทัพบกได้จัดส่งกำลัง ๑ กองร้อยทหารราบ จำนวน ๑๕๑ นาย จากกองทัพภาคที่ ๒ จัดกำลังจากกองพลทหารราบที่ ๓ เข้าร่วมการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 (LF20) กับกองพลทหารราบที่ ๒๕ ของกองทัพสหรัฐฯ รวมทั้งมีนักเรียนนายร้อยไปฝึกปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ ในกองร้อยด้วย ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๑ - ๒๑ ก.ค. ๖๓ นั้น ในการฝึกดังกล่าว เป็นการปฏิบัติในกรอบความร่วมมือเอกสารแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างกองทัพบกไทย และกองทัพบกสหรัฐฯ โดยผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารบกสหรัฐฯ ได้ลงนามร่วมกันไปแล้วเป็นครั้งที่ ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนขีดความสามารถ และประสบการณ์ ให้แก่กำลังพล ซึ่งนำมาขยายผลในการพัฒนาหน่วย พัฒนาหลักนิยมของกองทัพบกให้ทันสมัย มีความพร้อมต่อการป้องกันประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน ในสถานการณ์และวิกฤติการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ภารกิจการฝึกฯ ได้เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว และกำลังพลจะเดินทางกลับถึงประเทศไทย ใน ๒๒ ก.ค. ๖๓ เวลาประมาณ ๑๗.๔๐ น. โดยกองทัพบกได้เช่าเหมาลำอากาศยานของบริษัทการบินไทย ในการเคลื่อนย้ายกำลังพลทั้งไปและกลับ

ตลอดห้วงการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 (LF20) กำลังพลได้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัดภายใต้มาตรการฝึกแบบ Bubble Training ซึ่งกำลังพลทุกนายจะฝึกภายในพื้นที่ควบคุมที่มีการป้องกันโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวดเท่านั้น ไม่อนุญาตให้กำลังพลออกนอกพื้นที่ฝึก โดยก่อนเดินทางกลับจะต้องกักตัวเป็นเวลา ๑๔ วัน และตรวจเชื้อโควิด-19 จำนวน ๒ ครั้ง และเมื่อเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็จะปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่เดินทางกลับเข้าประเทศทุกประการ นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อเสริมการปฏิบัติให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้

๑. การเตรียมการก่อนการเดินทาง มีการจัดแบ่งกำลังพลออกเป็นกลุ่มเรียงตามลำดับหมายเลข ๑ - ๑๕๑ มีการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทำการซักซ้อมการปฏิบัติ เพื่อให้กำลังพลสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่ ศบค. กำหนด

๒. การปฏิบัติเมื่อกำลังพลเดินทางมาถึง ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทุกนายจะสวมใส่หน้ากากอนามัย และแว่นตาป้องกัน เน้นมาตรการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Social distancing) โดยดำเนินการคัดกรอง ณ จุดจัดครองด่านควบคุมโรคติดต่อ ภายในอาคารผู้โดยสาร ตามขั้นตอนที่ ศบค. กำหนด นอกจากนี้กองทัพบกยังได้มีการจัดชุดแพทย์เพิ่มเติมจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ประสานการปฏิบัติกับชุดแพทย์ที่ประจำ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของกระทรวงสาธารณสุข

๓. การเคลื่อนย้ายกำลังพลไปยังพื้นที่กักกันโรค State Quarantine ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา จังหวัดชลบุรี ในวันที่ ๒๒ ก.ค. ๖๓ นั้น ภายในรถโดยสารได้มีการจัดทำกระจกกั้นแยกระหว่างห้องพลขับและห้องผู้โดยสาร โดยจัดเตรียมวิทยุไว้สำหรับการติดต่อสื่อสาร การจัดเตรียมอุปกรณ์ฆ่าเชื้อ (เจลแอลกอฮอล์ ผ้าเช็ดมือ) ประจำรถทุกคัน การจัดที่นั่งมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (มาตรการ Social distancing) ไม่มีการแวะพักระหว่างการเดินทาง มีการจัดรถพยาบาลพร้อมชุดแพทย์จากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ติดตามขบวนตลอดการเดินทาง

๔. สำหรับการดำเนินการต่อยุทโธปกรณ์ที่นำไปทำการฝึกนั้น ได้แยกไปดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่ของกรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายไปยัง ค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งจะมีการฉีดฆ่าเชื้อซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะนำเก็บเข้าไว้ในคลังยุทโธปกรณ์ของหน่วยต่อไป

๕. การปฏิบัติ ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา โดยความรับผิดชอบของมณฑลทหารบกที่ ๑๔ มีการปฏิบัติ ดังนี้
- จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ทหารเพิ่มเติม จากกรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ และโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี ในการสนับสนุนงานด้านรักษาความปลอดภัย และการรักษาพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ศบค. ประจำ ณ พื้นที่กักกันโรค State Quarantine
- กำลังพลจะได้รับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเจ้าหน้าจากกรมควบคุมโรค จำนวน ๒ ครั้ง ในวันที่ ๒๕ ก.ค. และ ๓ ส.ค. ๖๓ มีการวัดไข้และรายงานทุกวัน และมีนักจิตเวช/นักจิตวิทยาคอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา
- กำลังพลทุกนายจะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติประจำอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ ไม่อนุญาตให้ออกนอกห้องพัก มีกล้อง CCTV เฝ้าตรวจตลอด ๒๔ ชั่วโมง งดการเยี่ยมญาติ โดยได้ดำเนินการแบ่งการจัดกำลังพลออกเป็นหมวด หมู่ อย่างชัดเจน เพื่อให้การควบคุมบังบัญชา ในห้วงของการกักกันตัว เป็นไปอย่างเข้มงวด และไม่ให้มีการฝ่าฝืนระเบียบปฏิบัติดังกล่าวโดยเด็ดขาด

๖. ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดการกักตัวในวันที่ ๖ ส.ค. ๖๓ แล้ว กำลังพลทุกนายจะได้รับหนังสือรับรอง และกองทัพบกจะจัดโดยสารนำกำลังพลส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป

การเตรียมการรับกองร้อยทหารราบ กลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ณ มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครั้งนี้ กองทัพบกให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ของ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด และเพิ่มเติมมาตรการเข้มข้นหลายประการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อสาธารณชนโดยทั่วไป

-----------------------------------------

แผนกแถลงข่าว กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกองทัพบก ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓

23 กรกฎาคม 2563

ผู้ชม 710 ครั้ง

Engine by shopup.com