สมรภูมิร่มเกล้า “BLACK ARMY”

หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ร่วมสดุดีวีรกรรมทหารผ่านศึก โดย ผบ.กรม.ทพ.35/ผบ.ฉก.ทพ 35 ฝ่ายอำนวยการและกำลังพล เดินทางไปเยี่ยมเยือนและสดุดีวีรกรรม อส.ทพ.ทวี นัยธนิตย์ วัยอายุ 68 ปี อดีตทหารผ่านศึกนอกประจำการ ร้อย.ทพ.3504 ซึ่งเป็นทหารผ่านศึกชั้น 2 เนื่องในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นวันทหารผ่านศึกนั่นหน่วยได้มีอดีตกำลังพลที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบตามแนวชายแดนของหน่วยและเคยผ่านสนามรบมาแล้วหลายสมรภูมิที่ไม่เคยลืมและเป็นที่จดจำของพี่น้องชาวไทย “ สมรภูมิร่มเกล้าหรือ ยุทธการบ้านร่มเกล้า เป็นการเผชิญหน้าช่วงสั้น ๆ ระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว ณ บริเวณบ้านร่มเกล้า ตรงชายแดนไทย–ลาว ผลสืบเนื่องจากข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อมาแต่สมัยแผนที่ฝรั่งเศสเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ยึดครองของคอมมิวนิสต์ที่หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีผลักดันให้คอมมิวนิสต์กลายเป็นผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยรัฐบาลจึงจัดสรรให้พื้นที่ดังกล่าว เป็นที่อยู่อาศัยของคอมมิวนิสต์และซึ่งทางคอมมิวนิสต์เป็นกองกำลังที่ยึดพื้นที่ไม่ยอมรับข้อตกลงจึงเกิดการสู้รบกับรัฐบาลทหารไทย ซึ่งทาง อส.ทพ.ทวี นัยธนิตย์ อดีตกำลังพลนอกประจำการยังเล่าให้ฟังอีกว่ายังเคยร่วมปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนทางทิศตะวันตก จังหวัดตาก อีกหลายพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ตั้งการวางกำลังของหน่วยทหารฝ่ายเราทั้งสิ้นจนทำให้ภารกิจที่สำคัญหลายประการของหน่วยบรรลุผลสำเร็จระหว่างที่รับราชการอยู่นั้นอีกทั้งภารกิจสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณวัยราชการยังได้ขึ้นปฎิบัติหน้าที่ 5 อำเภอชายแดนในพื้นที่จังหวัดตากแล้วยังเป็นที่ตั้งของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ปัจจุบันอีกด้วยซึ่งตัวท่านเองมีความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กที่จะรับราชการทหารเนื่องจากบ้านมีพื้นที่ภูมิลำเนาติดกับชายแดนและเห็นเจ้าที่ ทหาร-ตำรวจ ปฎิบัติหน้าที่กันอย่างเข้มแข็งปกป้องรักษาพื้นที่อธิปไตยของชาติ จึงตั้งปฏิภาณอย่างแน่วแน่ว่าเมื่อเติบโตมาจะเข้ารับราชการทหารพรานให้ได้อย่างสมญานามว่า “ ข้าพเจ้าจัดรักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จะเชิดชูเกียรติและรักศักดิ์ศรีของทหารพรานเยื่องชีวิต เป็นเพชฌฆาตในสนามรบ เป็นสุภาพบุรุษในเมือง เป็นมิตรที่ดีต่อประชาชน “