กองทัพบก แก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน "ภาคเหนือ"

ทบ.โดยกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ ทภ.3 สน. จับมือ ทส.เดินหน้า ป้องกัน และแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน เต็มที่ ครอบคลุม 17 จังหวัดภาคเหนือ

ในช่วง (ธันวาคม – เมษายน ของทุกปี) มักพบการเพิ่มขึ้นของฝุ่นละออง โดยเฉพาะในพื้นที่ 17 จ. ภาคเหนือของประเทศไทย เนื่องจากสภาพอากาศส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่หนาวเย็น และแห้งแล้งต่อเนื่องกันประกอบกับในช่วงเวลาดังกล่าว เกษตรกรจะทำการเผาเศษวัสดุเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตรในช่วงฤดูฝน ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดภาวะไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และความเป็นอยู่ของประชาชน ตลอดจนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของประเทศ

พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้ พลโท อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 และ พลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 3 (กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า) (บก.คฟป.ทภ.3 สน.) ณ สโมสรยอดทัพบันเทิง กองพลทหารรายที่ 7 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีหน้าที่อำนวยการและบูรณาการ การป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละออง และดับไฟป่า การเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ สนับสนุนการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และป้องกันให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด รวมถึงวางแผนการฟื้นฟู และสร้างความยั่งยืนต่อไป ตามที่ว่า “พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน”

โดยในช่วงที่ผ่านมา บก.คฟป.ทภ.3 สน.ได้ประชุมหารือ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เพื่อพิจารณา ร่าง แผนงานป้องกัน แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากไฟป่า และการเผาในที่โล่งในพื้นที่ภาคเหนือปี 2564 ขึ้น โดยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ใน 3 ระดับ คือ ระดับชาติ ระดับภาค และ ระดับจังหวัด โดยยึดหลัก 5 ยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหา

ขณะนี้ บก.คฟป.ทภ.3 สน.ได้ประสานส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมจัดชุดรณรงค์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง จำนวน 15 ชุด พร้อมชุด ขุนศึก, ขุนภักดี, นศท. ขุนอาสา (ชป.กร.กองพัน) และ ชุดจิตอาสาพระราชทาน เข้าตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดจุดความร้อน (hot spot) พร้อมทั้งรณรงค์ สร้างความเข้าใจ ให้ประชาชนทราบถึงแนวทางการป้องกันไฟป่า งดเผาวัสดุและผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิด เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าแล้ว ในขณะเดียวกัน ได้เตรียมความพร้อมของชุดลาดตระเวนป้องกันไฟป่า และอุปกรณ์ดับไฟ พร้อมออกปฏิบัติการทันทีที่เกิดเหตุ รวมถึง ได้ประสานกับส่วนราชการ และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำแนวป้องกันไฟป่า เฉพาะพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อจำกัดการเกิดไฟ ไม่ให้สร้างความเสียหาย ออกสู่พื้นที่ภายนอก ที่สำคัญได้เตรียม อากาศยาน พร้อมถุงบรรจุน้ำดับเพลิงแบบยกขึ้นด้วยเฮลิคอปเตอร์ พร้อมให้การสนับสนุนการดับไฟในพื้นที่ภาคเหนือตลอดเวลา นอกจากนี้ หากเกิดสถานการณ์หมอกควัน จาก PM2.5 ได้เตรียม บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน นำรถน้ำออกฉีดพ่นละอองไอน้ำในอากาศ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน เพื่อบรรเทาให้ภาวะหมอกควันเจือจางลง และเป็นการช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนอีกด้วย

ล่าสุด ในช่วง ธ.ค. 63 บก.คฟป.ทภ.3 สน.ได้ร่วมกับ ทส.เตรียม KICK OFF การปฏิบัติ โดยได้ส่งกำลังพลและชุดลาดตระเวนป้องกันไฟป่า เข้าดำเนินการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และเข้าจัดนำแนวกันไฟในหลายพื้นที่ อาทิ เช่น ดอยสุเทพ และดอยหลวง (จ.เชียงใหม่), ดอยพระบาท (จ.ลำปาง), ดอยจระเข้ (จ.เชียงราย) ฯลฯ

 

ทั้งนี้ ภาวะไฟป่าและหมอกควันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งกองทัพบกโดย ทภ.3 ได้บูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ในการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าประสงค์ เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในทุกมิติ

20 มกราคม 2564

ผู้ชม 772 ครั้ง

Engine by shopup.com