สมัครใจอยู่ต่อ ...ได้อะไรมากกว่าที่คิด
สมัครใจอยู่ต่อ ...ได้อะไรมากกว่าที่คิด
...ทหารกองประจำการ นอกจากเป็นผู้มีระเบียบวินัย แข็งแรง อดทนแล้ว ยังมีโอกาสสร้างความมั่นคงในชีวิตอีกด้วย..
.....ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ที่ไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดจนส่งผลกระทบไปในแทบจะทุกๆ ภาคส่วนทั่วประเทศ ทั้งบริษัท ห้าง ร้าน องค์กร ที่ต้องพากันปิดตัวลงไปกันหลายต่อหลายกิจการนั้น ส่งผลให้เกิดภาวะว่างงานของหลายๆ คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะพนักงานลูกจ้างรายวัน ซึ่งในส่วนนี้ทางรัฐบาลเองก็ได้มีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและรับผลกระทบไปบ้างแล้วในระดับหนึ่ง แต่ก็เป็นการช่วยเหลือเยียวยาในระดับที่พอปะทะประทังให้พอผ่านเหตุการณ์วิกฤตินี้ไปได้เพียงเท่านั้น ซึ่งตรงนี้ก็คงไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าสถานการณ์นี้จะคลี่คลายเข้าสู่ปกติเมื่อไหร่
.....สภาพเศรษฐกิจโลกเอง ก็กำลังอยู่ในภาวะ "ตกต่ำอย่างรุนแรง" เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลให้หลายประเทศในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ต้องเผชิญปัญหาชัตดาวน์ หรือภาวะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัวลง ประเทศไทยเองก็ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ต่างอะไรกับต่างประเทศ ซึ่งสุดท้ายแล้วผลกระทบด้านลบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้จะตกกับครอบครัวผู้ที่มีความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ต้องทำงานหาเลี้ยงชีพวันต่อวัน ซึ่งคนเหล่านี้จะต้องตกงาน สูญเสียรายได้ ซ้ำร้าย คนเหล่านี้ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางด้านสาธารณสุขได้เท่ากับคนที่มีฐานะ หรือมีโอกาสในการเข้าถึงน้อยมาก ทั้งการหาซื้อหน้ากากอนามัย การหาซื้อเจลล้างมือ รวมไปถึงแม้กระทั่งการเข้าถึงบริการของการตรวจโรค
.....จากเหตุการณ์ต่างๆที่ส่งผลกระทบไปทั่วประเทศในขณะนี้นั้น ทางกองทัพบก ผบ.ทบ. เองได้เล็งเห็นถึงสถานการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะอนาคตของน้องพลทหารที่ใกล้จะปลดสิ้นเดือนเมษายนนี้ ว่าปลดออกไปแล้วจะอยู่กันยังไง จะมีงานทำ มีเงินเลี้ยงดูพ่อแม่ครอบครัวในช่วงนี้ได้มั๊ย อนาคตพวกเขาจะมั่นคงหรือเปล่า หากตนเองหรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้รับการรักษาทันท่วงทีไหม ด้วยเหตุนี้ ผบ.ทบ.จึงได้ดำริให้มีการเชิญชวนน้องๆพลทหารที่จะปลดเหล่านี้ให้เลื่อนปลดและสมัครใจรับราชการต่อโดยจะมีการเพิ่มสิทธิต่างๆให้ ซึ่งนโยบายนี้ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากน้องๆทหารกองประจำการที่สมัครใจอยู่ต่อ เพื่อเป็นการวางเส้นทางการรับราชการของตนเองต่อไปในอนาคต
.....สำหรับน้องๆ พลทหารที่สมัครใจอยู่รับราชการต่อ นอกจากจะได้รับเงินเดือนบวกค่าครองชีพตลอดระยะเวลาของการเป็นทหารกองประจำการแล้วนั้น หากกองทัพบกมีการเปิดสอบบรรจุเข้าเป็นข้าราชการทหารเมื่อใด น้องๆเหล่านี้ทุกคน เน้นย้ำว่าทุกคน จะได้รับสิทธิและคะแนนเพิ่มพิเศษในการสอบบรรจุในทุกรายการสอบตามวงรอบประจำปีของ ทบ.ทั้งหมด (ประมาณเกือบ 5 พันอัตราทั่ว ทบ. ในแต่ละปีงบประมาณ) ไม่ว่าจะเป็นการสอบนายทหารประทวนของหน่วยต่างๆในกองทัพบกที่เปิดรับกันภายในหน่วยที่น้องๆสังกัดอยู่ (**วุฒิขั้นต่ำ ม.3 อายุไม่เกิน 30 ปี) หรือการสอบบรรจุเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกและการสอบบรรจุเข้าเป็นนักเรียนนายสิบเหล่าทหารราบ (***ตรงนี้ต้องมีวุฒิ ม.6 และอายุไม่เกิน 24 ปีสำหรับทหารกองประจำการ) สำหรับทหารกองประจำการรายใดที่เลื่อนปลดและสมัครใจอยู่รับราชการต่อเป็นปีที่ 3 นี้นั้น จะมีโควต้าถึงร้อยละ 50 ของการสอบนั้นๆ พูดง่ายๆก็คือ ไม่ว่ากองทัพบกจะเปิดสอบบรรจุเข้าเป็นนายสิบรอบไหนๆก็ตาม น้องๆพลทหารเหล่านี้จะได้สิทธิในที่นั่งการสอบครึ่งหนึ่งของจำนวนตำแหน่งที่เปิดรับทั้งหมด และบวกคะแนนเพิ่มตามที่กองทัพบกกำหนด เรียกได้ว่ามีภาษีดีกว่าบุคคลพลเรือนที่มาสอบด้วยกันอย่างชัดเจน (หากการสอบรอบนั้นๆมีบุคคลพลเรือนมาสอบด้วย)
.....ว่ากันถึงเรื่องสิทธิสวัสดิการต่างๆ บ้าง สำหรับน้องๆพลทหารที่สมัครใจรับราชการต่อนั้น สิ่งแรกเลยที่จะได้รับ ก็คือเงินเดือนบวกค่าครองชีพตามระเบียบที่ ทบ.กำหนด สำหรับใครที่กังวล ว่าหากปลดไปแล้วจะไปหางานทำที่ไหนได้บ้างในช่วงเวลานี้ ปลดออกไปเวลาไปสมัครงานแล้วเขาจะรับเข้าทำงานมั๊ย หรือจะเอาเงินที่ไหนมาเลี้ยงดูพ่อแม่ มาจุนเจือครอบครัวแล้วล่ะก็ หากพวกเขาตัดสินใจอยู่กับกองทัพต่อ ทางกองทัพก็จะไม่มีวันทอดทิ้ง น้องๆและครอบครัวจะไม่ต้องเดือดร้อนในส่วนนี้เลย และหากสามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการได้ ก็จะได้รับสิทธิสวัสดิการพื้นฐานต่างๆ ตามระเบียบที่กองทัพบกกำหนด ไม่ว่าจะเป็นสิทธิการเบิกค่ารักษาพยาบาลของคนในครอบครัว และสิทธิในการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์อื่นๆ สิทธิการเบิกค่าเล่าเรียนบุตร (ได้จนถึง ป.ตรี) สิทธิการได้รับทุนการศึกษา สิทธิในการพักที่พักอาศัยทางราชการ และสวัสดิการอื่นๆที่พึงได้รับ และสามารถสอบเลื่อนฐานะขึ้นเป็นนายทหารสัญญาบัตรต่อได้ หากมีความพยายามขวนขวายต่อไปในเส้นทางสายนี้
ได้ข่าวว่า หลังจาก ผบ.ทบ. ได้เชิญชวนให้น้องๆพลทหารฯ สมัครใจอยู่ต่อ ปี 3 ตอนนี้ยอดวิ่งไปถึง 3,000 กว่านายแล้ว...
และสิ่งที่แอดมินจะบอก ก็คือการใส่ใจดูแลสิทธิสวัสดิการของกำลังพลชั้นผู้น้อยในด้านต่างๆ ของผู้บัญชาการทหารบกท่านนี้ โดยเฉพาะการวางอนาคตเส้นทางการเติบโตในอาชีพทหารไว้ให้น้องๆ พลทหารที่กำลังจะปลดประจำการ ให้ได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้นในสภาวะการณ์แบบนี้ สิ่งที่ท่านมอบให้กับน้องๆนั้น นอกจากเป็นการมอบโอกาสในการเติบโตแล้ว ยังมอบโอกาสให้กับอีกหลายชีวิตในครอบครัวที่เขาต้องดูแล ให้ได้มีความมั่นคงต่อไปอีกด้วย
อย่างที่เคยบอกเอาไว้ครับ ว่าในสายตาคนภายนอก ผบ.ท่านนี้อาจจะเป็นที่เกลียดชังสำหรับคนอื่น แต่สำหรับกำลังพลที่เป็นลูกน้องท่าน เชื่อว่าหลายคนรักและเคารพท่าน ท่านเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขของผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี ลงไปลุยไปทำงานร่วมกับลูกน้องโดยไม่ถือตนว่าเป็น ผบช.ระดับสูงเลยแม้แต่น้อย สิ่งต่างๆเหล่านี้นี่แหละ ที่จะทำให้ลูกน้องทุ่มเททำงานเพื่อสังคม ส่วนรวมและประเทศชาติได้อย่างเต็มที่
สุดท้ายนี้ แอดมินอยากฝากไปถึงคนที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าหรือผู้บังคับบัญชาคนหมู่มากทุกๆคน ว่า
“...ตำแหน่ง เป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งในการทำงาน ส่วนตำนานนั้น เป็นเรื่องราวที่อยู่ในใจผู้คน อย่าเป็นเพียงแค่ผู้นำในตำแหน่ง แต่ขอให้ท่านจงเป็นผู้นำในตำนาน ที่ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังมีแต่คนชื่นชมเสมอ...”
02 เมษายน 2563
ผู้ชม 47677 ครั้ง