ทบ.นำสื่อมวลชน สัมผัสภารกิจสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงของทหาร ในการหยุดยาเสพติดไว้ที่ชายแดน

การสกัดกั้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบในพื้นที่ชายแดนเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของกองกำลังป้องกันชายแดนกองทัพบกที่ได้ทุ่มเทปฏิบัติอย่างเข้มงวดตลอดมาโดยเฉพาะการสกัดกั้นยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่ปรากฏผลการจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากจากความทุ่มเทในการเฝ้าตรวจและสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่

​

โดยในวันนี้ (๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖) กองทัพบกได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อรับทราบข้อมูลการสกัดยาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือโดยศูนย์อำนวยการปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดชายแดนภาคเหนือ (ศอ.ปส.ชน.) ซึ่งใช้กลไกบูรณาการร่วมของหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ ๓ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปฏิบัติงานในรูปแบบอำนวยการ ควบคุมการปฏิบัติของหน่วยทางยุทธการ รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการพิเศษและชุดสุนัขทหารเพื่อร่วมปฏิบัติการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือใน จ.แม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย และพะเยา รวม ๒๙ อำเภอ แบ่งเป็น ๓ ระดับตามความรุนแรงของสถานการณ์ยาเสพติด สำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน

ได้จัดกำลังพลจากกองทัพภาคที่ ๓, กรมทหารราบที่ ๔ และกองพลทหารราบที่ ๗ มีการใช้งานด้านการข่าวติดตามการเคลื่อนไหวของขบวนการยาเสพติด พร้อมทั้งลาดตระเวนตั้งจุดเฝ้าตรวจ จุดสกัด โดยในปี ๒๕๖๕ จับกุมทั้งประเทศรวม ๑๙๕ ครั้ง ยึดยาบ้า ๓๖๒,๘๘๘,๓๓๖ เม็ด, ไอซ์ ๕,๔๑๘ กิโลกรัม และ เฮโรอีน ๒๕๒ กิโลกรัม ปัจจุบันกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมีการปรับรูปแบบการลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนในโดยการซุกซ่อนและอำพราง ปรับรูปแบบเป็นการขายออนไลน์ ขนส่งผ่านระบบขนส่งไปรษณีย์และเอกชน ซึ่งเป็นการแสวงประโยชน์จากการพัฒนาเทคโนโลยีการขนส่ง ทำให้เข้าถึงผู้เสพได้ง่ายและรวดเร็ว ซึ่งศอ.ปส.ชน. ได้บูรณาการร่วมกับส่วนราชการในการตรวจสถานประกอบการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ และสร้างเครือข่ายรายงานการขนส่งสิ่งของผิดกฎหมาย ควบคู่กับการดำเนินการค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู

​

นอกจากนี้กองทัพบกได้นำสื่อมวลชนเดินทางไปรับทราบการปฏิบัติงาน

ของกองกำลังผาเมือง ซึ่งปฏิบัติภารกิจป้องกันชายแดนด้านเมียนมาและ สปป.ลาว ในพื้นที่ ๒๔ อำเภอ ความยาวตามแนวชายแดน ๙๓๓ กิโลเมตร ใน จ.เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, น่าน อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก ซึ่งการปฏิบัติภารกิจของกองกำลังผาเมืองประกอบด้วยหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ, หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ ๓๒ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้าโขงเขตเชียงราย หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๑ และ ๓๒ มีภารกิจการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน, จัดตั้งฐานปฏิบัติการและจุดเฝ้าตรวจชายแดนตามเส้นทางและปมคมนาคมสำคัญเพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย, การบุกรุกทําลายทรัพยากรธรรมชาตและป่าไม้, อาชญากรรม, การลักลอบส่งออก/นำเข้าสินค้าหนีภาษี, โจรกรรมรถยนต์และจักรยานยนต์ข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระดับท้องถิ่น และการพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างฐานปฏิบัติการ ลาดตระเวนร่วมทั้งทางบกและทางน้ำ

 

ภารกิจในการสกัดกั้นยาเสพติดเป็นการปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยงด้วยเพราะในพื้นที่ภาคเหนือมีสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดและที่ผ่านมาขบวนการยาเสพติดได้พัฒนารูปแบบการลักลอบลำเลียง โดยมีการใช้อาวุธและกองกำลังคุ้มกัน

ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มมาตรการและใช้อุปกรณ์เสริมการปฏิบัติงานในทุกด้าน เพื่อป้องกันมิให้ความเลวร้ายของยาเสพติดเข้ามาทำร้ายประชาชนและบ่อนทำลายสังคมไทย ตามเจตนารมณ์ของกองทัพบกที่ว่า “หยุดยาเสพติดไว้ที่ชายแดน”

.....................……..

๒๑ มีนาคม ๒๕๖๖